1. ความผันผวนในตลาด
ตลาดมีความผันผวนซึ่งเป็นที่รู้กันดี หากราคาคือเส้นทางการเคลื่อนไหวของตลาด ความผันผวนก็คือรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคา เมื่อมีความผันผวน จะต้องมีจุดสูงสุด (peak) และจุดต่ำสุด (trough) และระหว่างกลุ่มจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดที่อยู่ติดกันจะต้องมีช่วงเวลาแน่นอน เรามีมุมมองในการอธิบายความผันผวนในสามแง่มุม: แรกคือระยะทางตั้งฉากจากจุดสูงสุดถึงจุดต่ำสุดเป็นมิติทางกายภาพ เรียกว่า ความกว้างของความผันผวน (magnitude) ประการที่สองคือระยะทางแนวนอนจากจุดสูงสุดถึงจุดต่ำสุดเป็นมิติทางเวลา เรียกว่า ช่วงเวลา (time span) ประการที่สามคืออัตราการเปลี่ยนแปลงของมิติทั้งสอง ซึ่งเรียกว่า ความผันผวน (volatility) แน่นอนว่าความกว้างยิ่งมาก ช่วงเวลายิ่งน้อย ก็จะทำให้ความผันผวนสูงขึ้น ในทางกลับกัน ถ้าความกว้างน้อย ช่วงเวลามาก ก็จะทำให้ความผันผวนต่ำลง ตลาดมีความผันผวน และความผันผวนส่งผลต่อแนวโน้ม แนวโน้มคืออะไร? ไม่มีอะไรมากไปกว่าเป็นความผันผวนประเภทพิเศษ
2. ความต่อเนื่องและความผันผวน
การกำหนดแนวโน้มไม่สามารถแยกออกจากการกำหนดรอบเวลาได้ ต้องมีรอบเวลาเสียก่อนจึงจะมีแนวโน้ม ในสามมิติที่กล่าวถึง: ความกว้าง, ช่วงเวลา, ความผันผวน ฉันเชื่อว่าช่วงเวลาควรมีมาตรฐานที่เฉพาะเจาะจงและสามารถวัดได้ ฉันชอบซึ่งการวิเคราะห์รายเดือนและรายไตรมาส เมื่อกำหนดพารามิเตอร์เวลาชัดเจน เราจะให้ความสนใจกับอีกสองมิติ ฉันได้สรุปออกมาเป็นสองมุมมองในการดูความผันผวนของราคา: 1. ความต่อเนื่องของราคา; 2. ความผันผวนของราคา ความต่อเนื่องหมายถึงภายในรอบเวลาที่กำหนดตั้งแต่จุดเริ่มต้นถึงจุดสิ้นสุด ของการเคลื่อนไหวของราคา ค่าของการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงยิ่งมาก ก็จะยิ่งมีความกว้างมากด้วย ดังนั้นจึงถือว่ามีความผันผวนสูง ความผันผวนหมายถึงระดับความราบเรียบ (หรือความหยาบ) ของการเคลื่อนไหว คือความกล้าหาญที่จะเดินหน้าต่อไป หรือลังเลไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้
3. การสร้างสี่ประเภทความผันผวน
ถ้าหากเรานำความต่อเนื่องและความผันผวนแยกกันเป็นแกน X และ Y สร้างระบบพิกัด เราจะสามารถแบ่งสถานะการเคลื่อนไหวของราคาตลาดออกเป็นสี่ประเภทดังนี้: 1. ความต่อเนื่องดี ความผันผวนสูง - แนวโน้มที่ราบรื่น; 2. ความต่อเนื่องดี ความผันผวนต่ำ - แนวโน้มที่กระเทือน; 3. ความต่อเนื่องต่ำ ความผันผวนต่ำ - การเคลื่อนไหวในกรอบแคบ; 4. ความต่อเนื่องต่ำ ความผันผวนสูง - การเคลื่อนไหวในกรอบกว้าง
4. กลยุทธ์การซื้อขาย
ในฐานะที่เป็นผู้ซื้อขายถ้าเราต้องการพัฒนากลยุทธ์การซื้อขาย และหวังว่ากลยุทธ์นั้นจะสามารถใช้ได้ทั่วไปในหลายรอบเวลา หลายประเภทสินทรัพย์ เราต้องพิจารณามุมมองดังต่อไปนี้ - กลยุทธ์นั้นจะทำงานอย่างไรในสี่ประเภทของตลาดที่กล่าวถึง การเคลื่อนไหวในตลาดมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่ท้ายที่สุดก็มีเพียงแค่สี่ประเภทเท่านั้น ไม่มีใครที่จะสามารถจับทุกความเคลื่อนไหวได้
ความคิดเห็นของผู้ใช้
ยังไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น