บทนำ
ปัจจุบันมีวิธีการวิเคราะห์ที่หลากหลายที่สามารถแบ่งได้เป็นสามสายหลัก ได้แก่ การวิเคราะห์เชิงปริมาณ การวิเคราะห์พื้นฐาน และการวิเคราะห์เชิงเทคนิค (การจัดอันดับของสามสายนี้ไม่แสดงถึงลำดับความสำคัญ) ข้อถกเถียงเกี่ยวกับว่าวิธีใดดีที่สุดนั้นได้ดำเนินมานานเกือบหนึ่งร้อยปี ทุกฝ่ายต่างก็มีความเห็นของตนเอง ซึ่งในที่สุดก็ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด。
การวิเคราะห์เชิงปริมาณ
การวิเคราะห์เชิงปริมาณหมายถึงการใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์เพื่อนำมาวิเคราะห์คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ทางการเงินจะมีราคาเป็นอย่างไรในอนาคต กล่าวคือ เป้าหมายของการวิเคราะห์เชิงปริมาณคือการวิเคราะห์ว่าความเสี่ยงที่ต้องรับต้องการผลตอบแทนที่สมเหตุสมผลเพียงใด โดยใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ในการทำให้ความเสี่ยงและผลตอบแทนมีสัดส่วนกัน。
หลักการของการวิเคราะห์เชิงปริมาณ
ดังนั้น การวิเคราะห์เชิงปริมาณจึงถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายโดยกลุ่มบริษัทข้ามชาติและกองทุนต่างประเทศ ทุกคนควรทราบว่ากลุ่มบริษัทเหล่านี้ไม่ใช่เพื่อผลกำไร แต่เพื่อปกป้องมูลค่า ยกตัวอย่างเช่น บริษัทการค้าระหว่างประเทศในนิวซีแลนด์ขายสินค้าซึ่งจะมีมูลค่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ จะเข้าบัญชีในสามเดือนข้างหน้า。
การวิเคราะห์พื้นฐาน
การวิเคราะห์พื้นฐานเชื่อมโยงกับการพิจารณาสาเหตุภายในที่ทำให้ราคาระเบิดเพิ่มขึ้น การวิเคราะห์พื้นฐานคือการพยายามทำความเข้าใจสาเหตุภายในเพื่อประเมินมูลค่าของสินทรัพย์การเงินในปัจจุบันว่ามีความเหมาะสมและคาดการณ์ราคาในอนาคตได้หรือไม่。
การวิเคราะห์เชิงเทคนิค
การวิเคราะห์เชิงเทคนิคถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ในภาคการเก็งกำไร โดยมีเป้าหมายอย่างชัดเจนคือการช่วยผู้ค้าตัดสินใจว่าตลาดอยู่ในแนวโน้มหรือทิศทางไหนและทำการเปิดตำแหน่งตามแนวโน้มดังกล่าว。
ความหมายของการวิเคราะห์
ดังนั้นสามารถสรุปได้ว่าการวิเคราะห์ทางเทคนิคมีวัตถุประสงค์เดียว คือการช่วยผู้ค้าในตลาดที่ไม่เป็นธรรมในการสร้างรายได้ โดยไม่มีสิ่งประดิดประดอยใดๆ เหมือนกับนักฆ่าที่มีเป้าหมายเพียงอย่างเดียวคือการฆ่า。
ความคิดเห็นของผู้ใช้
ยังไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น